Sections

เชื่อว่าทุกคนในที่นี้คงรู้จักต้นโป๊ยเซียนกันดีแต่จะมีสักกี่คนที่รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับต้นไม้ชนิดนี้ คนไทยเราคุ้นเคยกับพันธุ์ไม้ชนิดนี้กันมายาวนานแล้วก็เป็นที่ทราบกันดีว่าต้นไม้ชนิดนี้มีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับต้นโป๊ยเซียนให้มากขึ้น โดยเฉพาะการปลูกและการดูแลรักษา ซึ่งต้องบอกเลยว่าทำได้ไม่ยาก
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อสามัญ: Crown of thorns, Christ thorn
ชื่อวิทยาศาสตร์: Euphorbia milii Des Moul.
วงศ์: EUPHORBIACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น
ต้นโป๊ยเซียน เป็นไม้อวบน้ำที่มีหนามแหลมรอบลำต้น โดยลักษณะของลำต้นอาจมีรูปร่างกลม เหลี่ยม หรือบิดเบี้ยวเป็นเกลียวแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เมื่อลำต้นเจริญเติบโตขึ้น เนื้อไม้จะแข็ง แต่ไม่มีแก่นเหมือนไม้ยืนต้นทั่วไป ลำต้นมีสีน้ำตาลหรือสีเทาอมน้ำตาลถึงเทาอมดำ หนามบริเวณรอบ ๆ ลำต้นอาจงอขึ้นหรือชี้ลงไม่แน่นอน การแตกหนามจะแตกออกเป็นหนามเดี่ยว หนามคู่ หรือหนามกลุ่มสามหนามขึ้นไป กลุ่มของหนามอาจบิดเป็นเกลียวรอบลำต้น หรือเรียงกันเป็นระเบียบตามแนวลำต้นก็ได้ ขึ้นอยู่ที่สายพันธุ์
ใบ
ใบของต้นไม่ชนิดนี้ ส่วนใหญ่ใบมีสีเขียวหรือสีเขียวอมเทา บางครั้งอาจพบเห็นใบที่มีสีแดงไปจนถึงสีแดงเข้ม ขึ้นอยู่ที่สายพันธุ์ รูปใบมีด้วยหลายแบบ เช่น ใบรูปทรงรีหรือรูปทรงหยดน้ำ รูปไข่ รูปใบพาย ฯลฯ บางสายพันธุ์ ใบมีลักษณะบิดเป็นเกลียว มีคลื่นหรือโค้งงอเล็กน้อย

ภาพโดย hartono subagio จาก Pixabay
ดอก
ดอกโป๊ยเซียน ลักษณะเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ประกอบไปด้วยกลีบดอกจำนวน 2 กลีบ โดยมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ตรงกลางกลีบดอก ลักษณะการออกดอกคือออกดอกเป็นช่อ แต่ละช่อมีดอกเป็นคู่ เช่น สองดอก สี่ดอก แปดดอก สิบหกดอก สามสิบดอก หรืออาจมีมากกว่านี้ สำหรับสีของดอกมีหลายสี เช่น สีแดง สีครีม สีเหลือง สีขาว สีส้ม ฯลฯ นอกจากนั้นยังสามารถพบเจอต้นที่มีดอกหลายสีสันอยู่ในต้นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ สำหรับรูปทรงของดอก ก็มีหลายรูปทรงเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงกลม ยาว เหลี่ยม กลีบดอกจะตั้งขึ้นคล้ายกรวยหรืออาจผายลงคล้ายร่ม ขนาดของดอกเล็กประมาณ 1 ซม. บางสายพันธุ์มีดอกขนาดใหญ่กว่า 5 ซม. โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นโดยคนไทยที่อาจมีขนาดดอกใหญ่กว่า 6 ซม. เลยทีเดียว
ผล/เมล็ด
บริเวณตรงกลางดอกจะมีกระเปาะนูนขึ้นมาเป็นผลสีขาว หลังจากที่มีการผสมเกสรติดแล้ว ผลลักษณะเป็นพูเล็ก 3 พู โดยแต่ละพูจะมีเมล็ด 1 เมล็ด เมื่อเมล็ดแก่จะมีสีน้ำตาลคล้ายเมล็ดพริกไทย จากนั้นจะแตกออกพร้อมดีดเมล็ดให้กระเด็นออกไป
ต้นโป๊ยเซียนจักรพรรดิ์
ต้นโป๊ยเซียนจริง ๆ แล้วมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยเฉพาะโป๊ยเซียนจักรพรรดิ ไม้ประดับสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ให้ดอกสวยงาม ถือได้ว่าเป็นต้นไม้โบราณหายาก เจ้าแห่งตระกูลโป๊ยเซียน ลำต้นอาจมีขนาดใหญ่เท่าแขน สูงได้เป็นเมตรและใบมีขนาดใหญ่ ต้นโป๊ยเซียนจักรพรรดิ์ ความหมายดี เป็นไม้มงคลที่ส่วนเสริมอำนาจบารมี โป๊ยเซียน หมายถึง เทพยดาแปดองค์ที่คอยอวยชัยอวยพรให้แก่มวลมนุษย์ ประกอบไปด้วย
- เซียนองค์ที่ 1 : หลีทิก๊วย
- เซียนองค์ที่ 2 : ฮั่นเจ็งหลี
- เซียนองค์ที่ 3 : ลื่อทงปิน
- เซียนองค์ที่ 4 : เตียกั๊วเล้า
- เซียนองค์ที่ 5 : น่าไช่ฮั้ว
- เซียนองค์ที่ 6 : ฮ่อเซียนโกว
- เซียนองค์ที่ 7 : ฮั่นเซียงจือ
- เซียนองค์ที่ 8 : เช่าก๊กกู๋
ประโยชน์ของโป๊ยเซียน
โป๊ยเซียน ไม้ดอก ไม้ประดับที่ไม่ได้มีสรรพคุณทางยาสมุนไพร แต่นิยมปลูกเพื่อความสวยงาม ปลูกในกระถาง สร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย แถมยังเป็นไม้มงคล ช่วยเสริมสิ่งดีๆ ให้เข้ามาในชีวิต มีความเชื่อว่าการปลูกต้นไม้ชนิดนี้สามารถใช้เสี่ยงทายโชคชะตาวาสนา โดยหากผู้ปลูกมียศอำนาจ มีวาสนาต้นไม้ชนิดนี้ก็จะมีความยืดยาวออกไปได้มากเท่านั้น โดยให้ดอก 8-32 ดอกจะบ่งบอกถึงบารมี ยิ่งออกดอกมากเท่าไหร่ หรือออกดอกมากกว่า 8 ดอกยิ่งดี มีบารมีสูงส่ง



การปลูกและการดูแลต้นโป๊ยเซียน
ถึงแม้ว่าต้นไม้ชนิดนี้จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศของบ้านเรา แต่การปลูกและการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ถูกวิธีจะทำให้ได้ต้นที่สวยงาม ออกดอกมาก นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ
ดิน
ดินที่ใช้ในการปลูก ดินชั้นบนควรเป็นอินทรียวัตถุเศษพืช เช่น ใบก้ามปู ใบทองหลางที่เน่าเปื่อยผุพัง นำมาคลุกเคล้ากับดินจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้ดินสามารถอุ้มน้ำ ในขณะเดียวกันก็สามารถระบายน้ำได้ดี ช่วยให้ส่วนของรากสามารถแพ่กระจายได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหากดินทึบแน่นหรือมีน้ำขังก็อาจทำให้รากเน่าได้ เมื่อปลูกได้สักระยะแนะนำให้พรวนดินรอบกระถางปลูก ให้ห่างจากโคนต้นประมาณ 2 นิ้ว ใส่ปุ๋ยคอกประมาณ 1-2 ช้อน และควรเปลี่ยนดินปลูกทุก ๆ ปี
แสงแดด
ต้นโป๊ยเซียนชอบแสงแดด ยิ่งถ้าได้รับแสงที่เหมาะสมคือประมาณ 60-70% จะดีมาก นั่นคือแสงแดดในตอนเช้า-เที่ยงเพราะหากได้รับแสงแดด 100% ตลอดทั้งวันต้นจะแข็ง สีของดอกจะเข้มแต่ขนาดดอกจะเล็กกว่าเดิม และอาจส่งผลให้ทั้งใบและดอกไหม้ได้ แต่ถ้าหากปลูกไว้ในร่ม หรือได้รับแสงแดดน้อยดอกจะใหญ่แต่สีดอกไม่เข้ม จึงเป็นสาเหตุที่ต้องสร้างความสมดุลด้วยการได้รับแสงแดดประมาณ 60-70% สามารถหาตาข่ายมาทำเป็นหลังคาก็ได้
น้ำ
การรดน้ำ ควรรดวันละ 1 ครั้งในตอนเช้าและควรรักษาความชื้นของดินให้พอเหมาะ ไม่แฉะและไม่แห้งมากจนเกินไป หากเป็นหน้าแล้ง ดินจะแห้งมาก ให้รดน้ำทั้งเช้า-เย็น ถ้าเป็นหน้าฝน ไม่จำเป็นต้องรดน้ำแต่ให้สังเหตุ ตรวจสอบผิวดินในกระถางด้วย เนื่องจากใบอาจร่วงลงมาปกคลุมกระถาง จนทำให้น้ำเข้าไม่ถึง เมื่อออกดอก หลีกเลี่ยงการให้น้ำที่บริเวณดอก อาจทำให้ดอกร่วงเร็วหรือเน่าได้

การตัดแต่งกิ่ง
ไม้ประดับชนิดนี้ บางต้นมีการแตกกิ่งก้านสาขามาก บางต้นเป็นลำต้นเดี่ยวไม่ค่อยแตกกิ่งสาขา ต้นที่มีกิ่งก้านสาขามากจะเป็นพุ่มทึบทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ส่งผลให้การออกดอกน้อยหรือดอกมีขนาดเล็ก นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งหลบซ่อนของแมลงศัตรูพืชและโรคต่าง ๆ ดังนั้น ควรตัดกิ่งออกบ้าง เพื่อให้แสงส่องเข้าถึงและอากาศถ่ายเทได้สะดวก การตัดให้ตัดชิดลำต้น ไม่ควรเหลือกิ่งตอไว้ เนื่องจากอาจทำให้มีรูปทรงไม่สวยงาม หลังจากตัดแต่งกิ่งออกให้หาปูนแดงมาทาบริเวณรอยตัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา ส่วนกิ่งที่ตัดออกสามารถนำไปขยายพันธุ์ในลำดับต่อไปได้ โป๊ยเซียนที่มีลำต้นเดี่ยวจะไม่ค่อยแตกกิ่ง ถ้าต้นสูงเมื่อโดนลมแรง ๆ ก็อาจทำให้ต้นหักได้ ควรตัดยอดไปเพื่อขยายพันธุ์เป็นต้นใหม่และปล่อยให้คนที่เหลือแต่กิ่งก้านออกมาใหม่จะดีกว่า
การให้ปุ๋ย
สำหรับการให้ปุ๋ยต้นไม้ชนิดนี้ เมื่อปลูกเป็นเวลานานธาตุอาหารในดินก็จะลดลงเรื่อย ๆ จึงจำเป็นต้องเพิ่มธาตุอาหารหรือปุ๋ยลงไปในดิน การใส่ปุ๋ยสามารถใส่ได้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยวิทยาศาสตร์หรือปุ๋ยเคมีก็ได้ ปุ๋ยอินทรีย์อาจเป็นปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เช่น มูลไก่ มูลวัว มูลสุกร มูลค้างคาว เป็นต้น ปุ๋ยเหล่านี้จะทำให้ดินร่วนซุยสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี ควรใส่เดือนละครั้ง สลับกับใส่ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยเคมีควรใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพดีและควรปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลากอย่างเคร่งครัด การให้ปุ๋ยควรให้ในช่วงเช้าและงดน้ำก่อนให้ปุ๋ย 1 วัน เพื่อกระตุ้นให้รากดูดซึมปุ๋ยมากขึ้น สำหรับการปลูกต้นใหม่ไม่แนะนำให้ใช้ปุ๋ยเคมีเพราะระบบรากยังจับตัวกับดินไม่ดีเพราะ อาจทำให้รากเกิดการฉีกขาดได้
ขอเสริมในส่วนของการปลูกเลี้ยงทำให้ออกดอก วิธีทำให้โป๊ยเซียน ออกดอกแนะนำให้วางกระถางสูงจากพื้นประมาณ 60-70 เซนติเมตร เพื่อให้อากาศพัดผ่านก้นกระถางได้สะดวก เมื่อโป๊ยเซียนคายน้ำมากก็จะทำให้ออกดอกนั่นเอง




ทั้งหมดนี้ ก็คือ เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับโป๊ยเซียน ไม้ประดับที่ได้รับความนิยมในการปลูก แถมยังเป็นไม้มงคลด้วย ปลูกง่าย ดูแลรักษาไม่ยากเลย เชื่อว่าข้อมูลที่เราเอามาแชร์จะพอเป็นแนวทางให้กับทุก ๆ คนได้ และทำให้ทุกคนได้รู้จักกับพันธุ์ไม้ชนิดนี้มากขึ้น
งานวิจัยอ้างอิง Euphorbia milii (Christ Plant, Christ Thorn, Crown of Thorns, Crown-of-thorns) | North Carolina Extension Gardener Plant Toolbox (ncsu.edu)