Sections
เบญจมาศ ไม้ดอกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการปลูก ดอกเบญจมาศ เป็นดอกไม้ทางเศรษฐกิจ มีการซื้อขายเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากกุหลาบ เนื่องจากดอกมีรูปทรงที่สวยงามบวกกับสีสันที่สดใส เช่น ดอกเบญจมาศสีชมพู เบญจมาศเงิน ดอกเบญจมาศสีเหลือง สีขาว สีส้ม ฯลฯ แตกต่างกันออกไปในแต่ละสายพันธุ์ สำหรับการปลูกและการดูแลรักษานั้นง่ายมากๆ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การปลูก การดูแลและประโยชน์ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าสนใจด้วย ถ้าอยากรู้ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลย
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อสามัญ: Chrysanthemum
ชื่อวิทยาศาสตร์: Chrysanthemum x grandiflorum Ramat.
วงศ์: ASTERACEAE



ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น
จัดเป็นไม้ดอก อยู่ในประเภทไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง ต้นมีขนาดเล็ก ความสูงประมาณ 75-80 เซนติเมตร ลำต้นจะมีลักษณะทรงกระบอก มีขนเล็กละเอียดปกคลุมทั่ว แตกกิ่งก้านได้แต่ไม่มากนัก
ใบ
ใบมีลักษณะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ใบเรียงสลับกัน รูปของใบคล้ายกับรูปไข่หรือหอก โคนใบตัดและสอบแหลม ปลายใบจะแหลม ขอบหยัก ใบมีสีเขียวเข้ม มีขนปกคลุมอยู่ด้วย



ดอก
สำหรับดอก ดอกของเบญจมาศมีด้วยกันหลายสี แตกต่างกันออกไปในแต่สายพันธุ์ ซึ่งจะออกดอกเป็นช่อกระจุกบริเวณซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงของดอกจะมีสีขาว รูปทรงรี ปลายแหลม ดอกจะเรียงสลับกันหลาย ๆ ชั้น สวยงาม สำหรับกลีบดอกจะเรียงสลับกันสองชั้น ชั้นนอกรูปทรงรี ซ้อนกันหลายชั้น โคนกลีบเชื่อมหากันเป็นหลอด ภายในมีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย
ดอกเบญจมาศกับความหมายที่ซ่อนอยู่
ดอกเบญจมาศ หรือเรียกอีกชื่อว่า ดอกมัน คือ สัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ร่วง คนจีนโบราณมีความเชื่อว่าดอกไม้ชนิดนี้คือการรวมตัวอันเป็นหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ นอกจากนั้นดอกไม้ชนิดนี้ยังหมายถึงความรักอันเป็นนิรันดร์ด้วย รวมถึงการมีชีวิตที่ยืนยาว ภายใต้ความหมายอันลึกซึ้งเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ร่าเริง แจ่มใสและความบริสุทธิ์ใจ บางครั้งยังหมายถึงการมองโลกในแง่ดี จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมอบดอกเบญจมาศให้กับผู้ที่รักและเคารพ และทุกคนรู้หรือไม่ว่าดอกเบญจมาศแต่ละสีมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป เช่น
- สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ดอกไม้ที่สูงศักดิ์และทรงเกียรติ สัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดี
- สีเหลือง หมายถึง ความรู้สึกดีกับมิตรสหายเป็นการแสดงออกถึงความรักเพียงเล็กน้อย
- สีแดง หมายถึง ความรัก ความรักที่ไม่ใช่แค่ชายกับหญิง แต่หมายถึงความรักที่ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดสิทธิ์มนุษย์
สายพันธุ์เป็นที่นิยมทางการค้า
1.สายพันธุ์ขาวปิงปอง
สายพันธุ์นี้ลักษณะของดอกจะมีสีขาวคล้ายกับลูกปิงปอง จึงถูกเรียกว่าสายพันธุ์ปิงปอง สายพันธุ์ที่ดูแลง่ายจะออกดอกให้เชยชมในช่วงเดือนสิงหาคม เดือนมิถุนายนของทุกปี
2.สายพันธุ์การะเกด
สายพันธุ์นี้ลักษณะดอกจะเป็นสีขาว ดอกใหญ่ ก้านจะตรง การดูแลง่าย ต้องทำโรงเรือน ซึ่งจะออกดอกเฉพาะฤดูฝน
3.สายพันธุ์แคทอาย
สายพันธุ์นี้ดอกจะมีสีเหลือง ดอกเล็กไม่ใหญ่ ก้านจะตรง ดูแลง่าย สายพันธุ์นี้สามารถออกดอกให้เชยชมตลอดทั้งปีแต่ทั้งนี้ผู้ปลูกจะต้องคลุมแสงแดดให้เหมาะสม
4.สายพันธุ์ขาวญี่ปุ่น
สายพันธุ์นี้ดอกจะมีขาวล้วน ดอกใหญ่ ก้านตรง เป็นสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการสูงแต่การดูแลรักษานั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด ราคาไม่เคยตกเลย ออกดอกช่วงเดือนตุลาคม เดือนมิถุนายนของทุกปี
5.สายพันธุ์โพลารีส
สายพันธุ์นี้ มีทั้งดอกสีขาว สีเหลือง ก้านตรง ดูแลง่าย ขนาดของดอกปานกลาง ออกดอกในช่วงเดือน พฤศจิกายน พฤษภาคมของทุกปี นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ นั่นคือ เบญจมาศเงินบอนไซ ลักษณะต้นเตี้ย แคระ ใบสีเงินสวยงาม นิยมปลูกประดับตกแต่งและเพื่อความเป็นสิริมงคล คนไทยเชื่อว่าเงินทองจะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย









ประโยชน์ของ เบญจมาศ
เบญจมาศ นอกจากปลูกเพื่อความสวยงามและนิยมมอบดอกไม้ให้กัน เพื่อสื่อแทนความหมายต่าง ๆ แล้ว ดอกยังมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรด้วย ใช้รักษาโรคได้หลากหลายอาการ ดังนี้
- บำรุงหัวใจ
การดื่มชาดอกเบญจมาศ ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- บำรุงสายตา
ชาดอกเบญจมาศอุดมไปด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก และจอประสาทตาเสื่อมได้
- แก้เครียด
ดื่มชาดอกเบญจมาศ ช่วยแก้เครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนั้นยังช่วยรักษาโรคความดันโลหิตได้ด้วย
- ช่วยในระบบย่อยอาหาร
ดื่มชาดอกเบญจมาศเป็นประจำ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ลดปัญหาท้องผูก อีกทั้งยังช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นด้วย
การปลูกและการดูแลรักษา
- เตรียมแปลงปลูก โดยปลูกในแปลงขนาดกว้าง 1- 1.20 เมตร ยาวตามขนาดของพื้นที่ ดินปลูกต้องเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถระบายน้ำได้ดี ค่า pH ดินควรอยู่ที่ 6-7
- ระยะปลูกคือ 12.5- 5 x 12.5-25 เซนติเมตร หากเป็นพันธุ์ดอกเดียว สามารถปลูกชิดขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นดอกช่อต้องปลูกห่างขึ้น การปลูกเบญจมาศที่ชิดกันมากไป ส่งผลให้เบญจมาศมีดอกขนาดเล็กลงได้ แต่จะได้จำนวนช่อดอกที่เพิ่มขึ้น
- ใช้ปูนขาวและปุ๋ยคอก คลุมให้ทั่วทั้งแปลง รองก้นหลุม แนะนำใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 20 กรัม/ต้น
- หลังจากที่ปลูกควรให้แสงสว่างโดยใช้หลอดไฟกลมขนาด 60-100 วัตต์ หรือหลอดนิออนยาว ขนาด 28 วัตต์ ติดหลอดไฟห่างกัน 1.5 เมตร สูงจากพื้น 1.5 เมตร ให้แสงสว่างในช่วงเวลา 18.00 – 20.00 หรือ 22.00 – 24.00 น. ติดต่อกันเป็นเวลา 30-45 วัน (ตามความสูงที่ต้องการ)
- การให้ปุ๋ยในระยะ 0-60 วัน ให้ใช้สูตรตัวหน้าสูง เช่น 30-20-10 อัตรา 20 กรัม/ตัน เมื่อปลูกไปประมาณ 60 วัน หรือจนถึงเวลาระยะตัดดอกใช้ปุ๋ยตัวกลางสูงเช่น 12-24-12 อัตรา 20 กรัม/ต้น การปลูกแนะนำให้ใช้ตาข่ายพยุงตัวที่ระดับ 30 และ 60 เซนติเมตร และควรใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลง โรคพืชที่สำคัญ ได้แก่ โรคใบจุด โรคนี้มักระบาดในช่วงฤดูฝน และโรคราสนิมขาว เกิดขึ้นที่ใบ
เทคนิคการปลิดดอกทิ้ง
การปลิดดอกทิ้ง คือ การลดจำนวนดอกตูม ในแต่ละช่อดอกลง ทำให้มีดอกที่น้อยลงแต่ได้ดอกที่มีขนาดมากขึ้นการปลิดดอกตูม ก็แค่ใช้เล็บปลิดทิ้งไปเท่านั้น สามารถทำได้ง่าย ไม่มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม การบำรุงด้วยปุ๋ยเป็นประจำสม่ำเสมอก็ทำให้ได้ดอกที่ใหญ่ขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับการตัดดอกให้กรรไกรตัดก้านดอกเหนือพื้นดินประมาณ 10 เซนติเมตร หากเป็นพันธุ์ที่ก้านดอกยาวอาจตัดสูงกว่านั้น ควรเด็ดใบทิ้ง 1 ใน 3 ของก้านดอกจากด้านข้าง ตัดออกเมื่อกลีบดอกนอกบานเต็มที่แต่ตรงใจกลางดอกไม่บาน ถือเป็นระยะที่เหมาะสมและสวยที่สุดแล้ว
หลังจากที่หมดฤดูกาลออกดอกแล้ว ให้ตัดต้นออกจนเหลือแค่ระดับเหนือพื้นดิน เมื่อถึงช่วงฤดูร้อน เบญจมาศจะเริ่มงอกงามขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะแตกรากออกมาให้ขุดกอขึ้นมา สามารถนำมาแยกออกเป็นต้นใหม่ได้หลาย ๆ ต้นเลย
จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ คุณจะเห็นได้ว่า “เบญจมาศ” มีหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายสีสัน แต่ละสีสันล้วนแล้วมีความหมายซ่อนอยู่ แถมยังเป็นความหมายที่ดีงามด้วย นอกจากความสวยงามแล้ว การปลูกดอกไม้ชนิดนี้ยังไม่ใช่แค่ตกแต่งสวน ตกแต่งสถานที่แต่เป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ที่ปลูกด้วย ทั้งหมดนี้ ก็คือ เรื่องราวที่น่าสนใจ ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเบญจมาศ ไม้ดอกที่ใคร ๆ ก็รู้จักเป็นอย่างดี แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าไม้ดอกชนิดนี้มีประโยชน์มากมาย มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรสามารถรักษาโรคได้หลายอาการ การดื่มชาดอกเบญจมาศทำให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่ดี ป้องกันได้หลายโรค สำหรับการปลูกและการดูรักษา ไม่ยากเลยถ้าศึกษาให้ดี ไม่แน่ว่ามันอาจสร้างรายได้ให้กับผู้ที่สนใจปลูก เรื่องราว ๆ ดีเกี่ยวกับเบญจมาศ ที่เราเอามาฝากหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อทุกคน รวมถึงเทคนิคดี ๆ ที่แนะนำด้วย
งานวิจัยอ้างอิง : Chrysanthemum