ต้นไทรเกาหลี ไม่ทรงพุ่ม ฟอร์มสวย น่าปลูก ดูแลไม่ยาก

ต้นไทรเกาหลี มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีนมาจนถึงประเทศมาเลเซีย ในประเทศไทยของเรา พันธุ์ไม้ชนิดนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อตามแต่ละภูมิภาค เช่น ไทรกร่าง ไทรย้อยใบทู่ เป็นต้น ไทรเกาหลี ความหมายคือไม้พุ่มขนาดกลาง ถือเป็นต้นไม้มงคลที่ผูกพันกับความเชื่อของคนไทยมายาวนาน เป็นหนึ่งในต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ส่วนใหญ่จะปลูกตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น วัดศาลเจ้า เป็นต้น คนไทยเชื่อว่าต้นไม้แบบนี้จะมีเทพารักษ์คอยปกปักรักษาอยู่  สำหรับคนที่สนใจอยากปลูกต้นไม้ชนิดนี้แต่ไม่แน่ใจว่าจะปลูกดีไหม ปลูกยากหรือเปล่า ดูแลอย่างไร วันนี้เราได้รวบรวมสาระน่ารู้และข้อมูลที่มีประโยชน์มาบอกต่อ  

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อสามัญ : Banyan Tree

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus annulata Blume

วงศ์ : Moraceae

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ดอก

       ดอกมีขนาดเล็กและมีสีขาว ออกดอกเป็นช่อมักจะออกตามบริเวณซอกใบ กระจุกบนฐานรองดอกเดียวกัน มีดอกย่อยอยู่จำนวนมาก โดยมีการแยกเพศ ซึ่งอยู่ร่วมต้นเดียว ในส่วนดอกเพศผู้จะมีปริมาณมากกว่าเพศเมียถือเป็นสัญลักษณ์ของไม้ประดับชนิดนี้

ไทรเกาหลีปลูกแล้วดีมีประโยชน์อย่างไร

2. ปลูกเป็นกำแพง

       ไทรเกาหลี ต้นไม้ที่สามารถนำมาปลูกทำเป็นกำแพงรอบบ้านหรือกำแพงรั้ว ถ้าปลูกและดูแลรักษาดีๆ ความสูงของต้นไม้ชนิดนี้ก็จะมีมากพอสมควร แต่ความสูงขนาด 2-3 เมตรกำลังดี โดยปกติจะใช้จำนวน 10 ต้นต่อความยาวของรั้วประมาณ 3 เมตร

3. ลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน

       การปลูกไทรเกาหลีสร้างความร่มรื่นเขียวขจี หากปลูกไว้ริมรั้วตรงบริเวณรอบบ้านก็จะช่วยลดปริมาณความร้อนลงได้ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือช่วยให้บ้านเย็นลงและน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น

4. ช่วยกันฝุ่นและพรางแสงแดด

       เนื่องจากไทรเกาหลีเป็นไม้ทรงพุ่มซ้อนกันหลายชั้นตามที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น ข้อดีที่ตามมาคือสามารถช่วยพรางแสงแดด รวมถึงฝุ่นละอองได้ดี โดยเฉพาะคนที่อาศัยในเมืองที่ต้องเผชิญกับภาวะฝุ่นละออง หากปลูกไทรเกาหลีเพื่อทํารั้วบ้านหรือทำเป็นกำแพงบ้านจะช่วยลดปริมาณแสงและฝุ่นไม่เข้าตัวบ้านมากจนเกินไปได้

5. แข็งแกร่ง ไร้แมลงรบกวน

       ต้นไทรเกาหลีเป็นต้นไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและแมลงรบกวนเท่าไหร่นัก นอกจากนั้นก็ยังสามารถเจริญเติบโตได้ดีธรรมดาทั่วไป จึงเอาไว้เป็นไม้ประดับเพื่อสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับตัวบ้านเป็นไม้ประดับที่ดูเหมาะสมกับคนเมืองที่ใช้ชีวิตเร่งรีบและไม่ค่อยมีเวลาแต่ก็ต้องการความสวยงาม รวมถึงสรรพคุณในการฟอกอากาศด้วย

ต้นไทรที่ได้รับความนิยม มีกี่ชนิด

       ถ้าถามว่าไทรเกาหลีมีกี่แบบ ปัจจุบันไทรเกาหลีแบ่งย่อยออกเป็นหลายสายพันธุ์ เช่น ต้นไทรเกาหลีด่าง ที่ได้รับความนิยมสูง ราคาก็สูงเช่นกัน ไทรเกาหลีและไทรชนิดอื่น ๆ ที่นิยมปลูกทำรั้วต้นไม้ ปัจจุบันนักจัดสวนนิยมใช้มากๆ ซึ่งต้นไทรในตลาดก็มีให้เลือกมากมายหลายชนิด บางชนิดหน้าตาคล้ายกันจนจำสับสน โดยหลัก ๆ แล้วไทรจำแนกออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

1. ไทรคอมแพ็คท์

       ไทรคอมแพ็คท์ ลักษณะใบหนา ปลายใบแหลม ใบมีสีเขียวเข้ม ทรงพุ่มแน่น เติบโตช้า ก้านและข้อก้านสั้นหนาสีน้ำตาลเข้มต้องปลูกกลางแจ้ง

2. ไทรอินโด

       ไทรอินโดมีลักษณะใบบาง ปลายใบกลม สีเขียวเข้ม ก้านสีน้ำตาลอ่อน ทรงพุ่มแน่นสามารถปลูกได้ดีทั้งในที่กลางแจ้งและในที่ร่ม

3. ไทรอังกฤษ

       ไทรอังกฤษลักษณะปลายใบแหลม กิ่งก้านและข้อใบยาวห้อยย้อย ทำให้ดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง ต้นสมบูรณ์จะมีผลสีแดงต้องปลูกกลางแจ้งต้นจึงจะสมบูรณ์  

4. ไทรเกาหลี

       ไทรเกาหลี ลักษณะใบจะคล้ายกันกับไทรคอมแพ็คท์ แต่ใบจะบางกว่า ปลายใบแหลม ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ยอดใบมีสีเขียวอ่อน ก้านใบเล็ก ข้อใบยาว ไทรเกาหลี โตเร็วไหม เป็นพันธุ์ไม้ที่โตเร็วและมีทรงพุ่มแน่นเร็วกว่าไทรชนิดอื่น ๆ สามารถปลูกได้ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง

^{ภาพถ่ายโดย Skylar Kang จาก Pexels}

การปลูกต้นไทรเกาหลี

การปลูกต้นไทรเกาหลี ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยเพียงทำตามขั้นตอนที่เราจะแนะนำต่อไปนี้

1.เริ่มแรกขุดหลุมปลูกโดยให้พอดีกับถุงปลูก ซึ่งมีระยะเหมาะสมคือ

• ขนาดถุง 12 นิ้วระยะปลูกควรอยู่ที่ 2-2.5 ต้นต่อ 1 เมตร
• ขนาดถุง 10 นิ้วระยะปลูกที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 3 ต้นต่อ 1 เมตร
• ขนาดถุง 8 นิ้วระยะปลูกที่เหมาะสมอยู่ที่ 3-4 ต้นต่อ 1 เมตร แต่ถ้ารอให้โตกว่านี้โดยเลี้ยงไว้ในถุงเพื่อเพิ่มความแข็งแรงระยะปลูกควรเป็น 3 ต้นต่อ 1 เมตร

2. เมื่อจัดเตรียมระยะปลูกที่เหมาะสมได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือวิธีการปลูก โดยให้แกะถุงดำที่เพาะชำออกจากกิ่งตุ้ม

3. จากนั้นนำต้นกล้าลงปลูกในหลุม เลือกมุมสวยๆ โดยให้หันด้านที่ต้องการออกข้างนอก พยายามจัดวางตำแหน่งให้ตรงกัน ไม่เอียงไปทางด้านซ้ายด้านขวาและควรมีระยะห่างระหว่างต้นเท่ากันเพื่อสร้างความสวยงาม

4. นำดินปลูกหรือดินเดิมที่มีอยู่ในถุงกลบลงไปในหลุม ควรเติมให้ดินปูนออกมาเป็นรูปหลังเต่า เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำขังในหน้าฝน รวมถึงปัญหาดินยุบตัวลงจากการรดน้ำหรือสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

5. หลังจากปลูกไทรเกาหลีเสร็จ ก็ให้รดน้ำวันละ 2 ครั้ง แบ่งเป็นช่วงเช้าและช่วงเย็นให้รดน้ำติดต่อกัน 3-5 วัน ป้องกันไม่ให้ใบไหม้และทำให้ต้นตั้งหลักได้ จากนั้นให้เปลี่ยนมารดน้ำเป็นวันละครั้งแทน หรือถ้าไม่สะดวกก็สามารถรดน้ำไทรเกาหลีที่ปลูกไว้วันเว้นวันได้

สำหรับการขยายพันธุ์ ต้นไทรเกาหลีสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการปักชำและการตอนกิ่ง เทคนิคการปลูกไทรเกาหลีให้ดูสวยงามแน่นทึบตลอดเวลา ควรดูแลเอาใจใส่ให้ดี เติมสารอาหารสำหรับต้นไม้ที่มีส่วนผสมของธาตุไนโตรเจนสูง อย่างเช่น ปุ๋ย สูตร 30-20-0 ตรงบริเวณโคนพุ่มทุก 15 วันในปริมาณต้นละครึ่งช้อน จากนั้นก็พรวนดินและรดน้ำติดต่อกัน 3 วัน เพื่อให้ปุ๋ยเม็ดละลาย แนะนำให้ใส่ปุ๋ยช่วงนอกฤดูฝนเพราะถ้าใส่ปุ๋ยในช่วงหน้าฝน น้ำจะชะล้างปุ๋ยไปจากหน้าดินทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็น 

การดูแลรักษาต้นไทรเกาหลี

• เมื่อต้นเติบโตแข็งแรง ผลิใบสวยงาม การดูแลกำจัดศัตรูพืชคือเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะแมลงที่บุกเข้ามาทำลายใบ ใช้สารเคมีเท่าที่จำเป็น แต่ถ้าไม่ได้ระบาดหนักก็ไม่จำเป็นต้องฉีดสารเคมี
• เมื่อตรวจพบใบมีรอยไหม้เป็นวงหรือเป็นจุด เกิดปัญหาใบร่วง ปลายยอดมีลักษณะเหี่ยวไหม้ อาการนี้พบบ่อยในช่วงหน้าฝน ดังนั้น ควรฉีดยาป้องกันเชื้อราทุก ๆ 7-30 วัน
• ช่วงหน้าแล้ง แนะนำให้รดน้ำทุกวันแต่ถ้าเป็นฤดูฝน ควรงดเว้น ให้เน้นเรื่องการดูแลการระบายน้ำให้ดี อย่าให้น้ำท่วมขังจนทำให้เกิดปัญหารากเน่า
• เมื่อต้นไทรเกาหลีเจริญเติบโตสวยงามแข็งแรง หมั่นตัดแต่งกิ่ง ริดใบ เพื่อให้ได้ฟอร์มสวยๆ ถ้าไม่มีเวลาให้ตัดแต่งประมาณ 1-3 เดือนต่อครั้งก็ได้

^{ภาพโดย zephyz จาก Pixabay}

ต้นไทรเกาหลี ปลูกในบ้านได้ไหมหรือปลูกบริเวณรอบบ้านได้หรือเปล่า สามารถปลูกได้แน่นอนเพราะจัดเป็นไม้พุ่มขนาดกลางแตกต่างจากต้นโพธิ์ต้นไทรที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหารากชอนไช ทำลาย หรือทำให้โครงสร้างบ้านเสียหาย ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับต้นไทรเกาหลีเป็นอย่างไรกันบ้าง เชื่อว่าข้อมูลที่เรามาแชร์จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ คนโดยเฉพาะคนที่ต้องการปลูกบอกได้เลยว่าพันธุ์ไม้ชนิดนั้นปลูกง่าย ดูแลรักษาไม่ยากเข้ากับสภาพอากาศในประเทศไทยของเราได้ดี